วัด Kinkakuji
นั่งรถเมล์ไปประมาณ 30 นาทีก็ลงที่ป้าย Kinkakuji-michi แล้วก็เดินเข้ามาในถนนเล็กๆ
ข้ามสี่แยก
เข้าสู่บริเวณวัด
วัด Kinkakuji นี้กว้างใหญ่ทีเดียว
เดินผ่านซุ้มประตูด้านหน้า
สวนบอนไซดัดเป็นทาง ต้นบอนไซนี้ กว่าจะปลูกจนโตได้เท่านี้ ใช้เวลาเป็นร้อยๆ ปี
ต้นไม้เก่าแก่อายุหลายร้อยปี
ซื้อตั๋วเข้าชมวัดกันก่อน
ผู้ใหญ่คนละ 400 เยน เด็ก 300 เยน เปิดให้ชมตั้งแต่ 9.00 - 17.00 น.
เดินเข้ามาเพียงนิดเดียวก็พบกับความอลังการของพลับพลาสีทอง ริมน้ำ ใครที่มาเกียวโตแล้วไม่ได้มาวัดนี้ แสดงว่า มาไม่ถึง พลาดไปอย่างแรง พลับพลาสีทองนี้ ไม่ได้เป็นโบสถ์หรือศาลาส่วนใดของวัด แต่จริงๆ แล้วเป็นที่พำนักของท่านโชกุนโยชิมิตสึ ในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง
คนญี่ปุ่นโบราณสร้างได้เก่งจริงๆ
ในการ์ตูนเรื่อง "เณรน้อยเจ้าปัญญา อิคคิวซัง" ก็มักจะเห็นฉากนี้บ่อยๆ โดยพลับพลาทองนี้เดิมเป็นของบุตรชายโชกุน โยชิมิสึ ก่อนที่จะยกให้วัดในภายหลัง
สระน้ำหน้าพลับพลา มีชื่อเรียกว่า สระเรียวโกะ สะท้อนเงาในน้ำได้สวยงาม
พลับพลานี้มี 3 ชั้น
ด้านบนหลังคามีนกกระเรียนทองประดับอยู่
ดูกันจนอิ่มหนำแล้วก็เดินชมส่วนอื่นๆ ภายในบริเวณวัดกันต่อ ศาลาด้านล่างนี้ ผู้คนมักจะมานั่งพักผ่อน หรือทำสมาธิกัน
ปลาคาร์ฟและปลาน้ำจืดหลากหลายพันธ์ในสระเรียวโกะ
ซุ้มขายเครื่องราง
น้ำตกในสวนญี่ปุ่นเล็กๆ
ข้างทางเดิน จะพบเห็นพระพุทธรูปหินโบราณตั้งเรียงรายอยู่ ผู้คนมักจะโยนเหรียญทำบุญรอบๆ องค์พระ
กุฏิโบราณที่ยังคงอนุรักษ์ไว้
ส่วนอันนี้ ลานพักผ่อน จิบชาเขียวและขนมหวาน คนละ 500 เยน
ใกล้ๆ กันนั้นก็มีโบสถ์เล็กๆ สำหรับไหว้พระขอพร
และที่ขาดไม่ได้สำหรับการมาวัดนี้อีกอย่างก็ต้องเขียนแผ่นป้ายขอพรอิคคิวกันก่อนกลับ
ราคาแผ่นละ 300 เยน (ขอให้เจ้าปัญญาอย่างอิคคิวทีเถอะ สาธุ _/\_)
